หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือชาวสเปนของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอสเช) แสดงความภาคภูมิใจหลังนำทีมคว้าแชมป์เปี้ยนส์ลีกสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังจากเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสกอร์ 5-0 อย่างขาดลอยในนัดชิงชนะเลิศที่เมืองมิวนิค เอ็นริเก้ ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในฐานะโค้ชคนที่สองในโลกที่สามารถคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" กับสองสโมสรที่แตกต่างกัน ต่อจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยก่อนหน้านี้เขาเคยทำสำเร็จแล้วในสมัยคุมทีม บาร์เซโลน่า "ผมพูดไว้ตั้งแต่รับงานนี้ว่าเป้าหมายสุดท้ายคือคว้าแชมป์ และมีถ้วยเดียวที่สโมสรขาดไปคือแชมป์เปี้ยนส์ลีก ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว และจากนี้เราจะเดินหน้าต่อเพื่อครองโลกฟุตบอล" เอ็นริเก้ กล่าวในสัมภาษณ์หลังเกม เขายังยกย่องการแสดงของ เด็มเบเล่ ว่าสมควรได้รางวัลบัลลงดอร์ และชื่นชมน้ำใจนักเตะ อินเตอร์ ที่ยังคงอยู่ในสนามหลังจบเกมเพื่อแสดงความเคารพ
ช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดคือการที่เอ็นริเก้รับถ้วยแชมป์โดยสวมเสื้อที่อุทิศให้กับ ซาน่า ลูกสาวที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเมื่ออายุ 9 ขวบในปี 2019 ขณะที่แฟนบอลเปแอสเชถือป้ายให้กำลังใจ "เธออยู่เคียงข้างเพื่อเป็นแรงสนับสนุนผมและครอบครัวเสมอ วันนี้ผมก็รู้สึกแบบนั้น" เอ็นริเก้ กล่าวด้วยความซาบซึ้ง การคว้าแชมป์ครั้งนี้เป็นจุดสำคัญของเปแอสเช ที่ได้รับรางวัลจากการลงทุนและความอดทนมาอย่างยาวนาน
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :เปแอสเช