"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างความชัดเจนในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม ด้วยการปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 40 ล้านปอนด์จากสโมสรนาโปลี สำหรับกองกลางดาวรุ่ง อเลฮานโดร การ์นาโช่ โดยทีมจากอิตาลีต้องการตัวนักเตะรายนี้มาทดแทน ควิช่า ควารัตส์เคเลีย ที่กำลังจะย้ายไปร่วมทัพปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัวสูงถึง 70 ล้านปอนด์ การตัดสินใจของทีมปีศาจแดงสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่มีต่อการ์นาโช่ ในฐานะสินทรัพย์ที่มีค่าของสโมสร แม้ว่าจะมีรายงานว่านักเตะวัย 19 ปีแสดงความสนใจที่จะย้ายไปค้าแข้งในกัลโช่ เซเรีย อา แต่ผู้บริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยืนกรานว่าจะไม่พิจารณาข้อเสนอที่ต่ำกว่า 60 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นราคาประเมินที่สโมสรตั้งไว้ การ์นาโช่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลผลิตที่โดดเด่นที่สุดจากอคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก ด้วยสไตล์การเล่นที่ผสมผสานระหว่างทักษะทางเทคนิคอันยอดเยี่ยมและวิสัยทัศน์ในการอ่านเกม ทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกสำคัญในแดนกลางของทีม
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การนำทีมของกุนซือคนปัจจุบัน รูเบน อโมริม การ์นาโช่กลับพบกับความท้าทายในการรักษาตำแหน่งตัวจริง โดยเพิ่งได้รับโอกาสลงสนามในฐานะ 11 ตัวจริงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เกม ในเกมเอฟเอ คัพ ที่เอาชนะอาร์เซนอลได้อย่างน่าประทับใจสถานการณ์นี้ได้สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลปีศาจแดงจำนวนมาก ที่เห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของการ์นาโช่ และไม่ต้องการให้เขาต้องจากไปเหมือนกับดาวรุ่งหลายคนที่เคยผ่านการพัฒนาจากอคาเดมี่ของสโมสร การปฏิเสธข้อเสนอจากนาโปลีครั้งนี้ จึงอาจเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าสโมสรยังคงเชื่อมั่นในตัวนักเตะและพร้อมที่จะให้เวลาเขาในการปรับตัวกับระบบการเล่นใหม่ นอกจากนี้ การตัดสินใจดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายการบริหารทีมที่ระมัดระวังมากขึ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดนักเตะมีความผันผวนสูง การรักษาผู้เล่นที่มีศักยภาพอย่างการ์นาโช่ไว้อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของการพัฒนาทีมและมูลค่าทางการตลาด ในขณะที่ฤดูกาลดำเนินต่อไป แฟนบอลและผู้ติดตามวงการฟุตบอลจะจับตามองพัฒนาการของการ์นาโช่ภายใต้การคุมทีมของอโมริม และการตัดสินใจของสโมสรในการรักษาดาวรุ่งรายนี้ไว้อาจเป็นหนึ่งในการตัดสินใจสำคัญที่จะส่งผลต่ออนาคตของทีมในระยะยาว