เรอัล มาดริด มาด้วยความหวังที่จะเอาคืนในเกม "เอล กลาซิโก้" ครั้งล่าสุดกับบาร์เซโลน่า ที่แพ้คาบ้านไป 4-0 แต่กลับต้องพบกับความอับอายอีกครั้ง
ทีมราชันชุดขาวพ่ายให้กับบาร์เซโลน่า 5-2 ในนัดชิงชนะเลิศสแปนิช ซูเปอร์คัพที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการโดนย้ำแค้นอีกครั้งหลังจากความพ่ายแพ้ 4-0 ที่เบร์นาบิวในลาลีกาเมื่อเดือนตุลาคม แม้ว่าเกมนี้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จะพาทีมขึ้นนำก่อน แต่หลังจากนั้นบาร์เซโลน่าก็ระเบิดฟอร์มด้วยประตูจาก ลามีน ยามาล, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ราฟินญ่า - ที่ทำได้สองประตู - และ อเลฮานโดร บัลเด้ ส่วนโรดรีโก้ทำประตูให้มาดริดในครึ่งหลัง หลังจากที่ผู้รักษาประตูบาร์เซโลน่า วอย์เชียค เชสนี่ย์ ถูกไล่ออกในช่วงต้นครึ่งหลังเกมนัดชิงชนะเลิศสแปนิช ซูเปอร์คัพ 2024 ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นการพบกันของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลสเปน บาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด ในศึกเอล กลาซิโก้ที่แฟนบอลทั่วโลกให้ความสนใจ เริ่มเกมเป็นเรอัล มาดริดที่ดูจะมีความมุ่งมั่นสูง หลังจากที่เพิ่งพ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่างบาร์เซโลน่าไป 4-0 ในเกมลีกเมื่อเดือนตุลาคม ดาวเตะใหม่อย่างคีเลียน เอ็มบัปเป้ แสดงให้เห็นถึงคุณค่าด้วยการพาทีมขึ้นนำก่อนในครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่าแสดงให้เห็นถึงพลังของทีมด้วยการตอบโต้อย่างรวดเร็ว ดาวรุ่งวัย 16 ปี ลามีเน่ ยามาล สร้างความประทับใจด้วยการทำประตูตีเสมอ ก่อนที่ดาวยิงมากประสบการณ์อย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้จะพาทีมขึ้นนำ จากลูกที่จุดโทษ จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นในครึ่งหลัง เมื่อผู้รักษาประตูบาร์เซโลน่า วอย์เชียค เชสนี่ย์ ถูกไล่ออกจากสนาม แต่แม้จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า บาร์ซ่าก็ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีม ราฟินญ่าโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการทำสองประตูติดต่อกัน แม้โรดรีโก้จะทำประตูปลอบใจให้กับเรอัล มาดริดได้ แต่อเลฮานโดร บัลเด้ ก็ตอกย้ำชัยชนะให้กับบาร์เซโลน่าด้วยประตูที่ห้า ทำให้ทีมคว้าแชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพไปครอง ได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการคว้าถ้วยรางวัลเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของทีมบาร์เซโลน่าภายใต้การคุมทีมของ ฮานซี่ ฟลิค ที่สามารถผสมผสานระหว่างนักเตะดาวรุ่งอย่าง ยามาลและบัลเด้ เข้ากับประสบการณ์ของเลวานดอฟสกี้และราฟินญ่าได้อย่างลงตัว สำหรับเรอัล มาดริด ความพ่ายแพ้ครั้งนี้อาจนำไปสู่การทบทวนแผนการเล่นและกลยุทธ์ของทีม โดยเฉพาะในการรับมือกับคู่แข่งระดับสูง แม้ว่าการมีเอ็มบัปเป้จะเป็นข้อได้เปรียบ แต่ทีมยังต้องพัฒนาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมรับที่รั่วซะเหลือเกิน